'จุลพันธ์' ยันเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ใช้ระบบ Blockchain – 'ศิริกัญญา' ชี้ใช้เป๋าตัง ทำได้เร็วกว่า

ศิริกัญญา” แนะ ใช้เป๋าตังทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตได้เร็วกว่า อัด ประเดิมงานแรกของนายกฯ – จุลพันธ์ งงกระแสข่าวจ่ายเงินผ่านแอปฯ เป๋าตังมาจากไหน ยันใช้ Blockchain บอกจะพยายามให้แล้วเสร็จ ภายในไตรมาสแรกปี 67

วานนี้ (วันที่ 6 ก.ย.) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าและส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสข่าวโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะดำเนินการผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย ว่า ใช้เป๋าตังทำได้เร็วกว่า เหมาะกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ถ้าจะยืมเงินรัฐวิสาหกิจ 5 แสนล้าน กรอบวินัยการเงินการคลังตามกฎหมายให้ยืมได้แค่ 32% ของงบ (1.1 ล้านล้านบาท) และตอนนี้เกือบเต็มแล้วต้องขยายเพดานเป็น 45% ของงบประมาณ

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ประเดิมงานแรกของนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐด้วยการทลายกรอบวินัยการเงินการคลัง โครงการที่กู้ยืมเงินรัฐวิสาหกิจยังมีปัญหาอีกอย่างคือ ไม่อยู่ในงบประมาณเท่ากับไม่ต้องผ่านสภาฯ ไม่ต้องโดนสภาตรวจสอบตอนอนุมัติงบ

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย เผยคำให้สัมภาษณ์ของนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ถึงกระแสข่าวเรื่องช่องทางการจ่ายเงินในโครงการ Digital Wallet ว่า

“พรรคเพื่อไทยยืนยันว่านโยบาย Digital Wallet จะเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain อยู่เบื้องหลัง ซึ่งถูกพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจากเทคโนโลยีแบบเดิม เพื่อประโยชน์ของการพัฒนาประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล”

ทีมข่าวสอบถามไปยังนายจุลพันธ์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เพิ่มเติมว่า ตนไม่ทราบว่าข่าวปล่อยมาจากทางไหนว่าจะมีการจ่ายเงินผ่านแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” ขอชี้อแจงทำความเข้าใจว่าสิ่งที่เราจะใช้เป็นเทคโนโลยี บล็อกเชน (Blockchain) แน่นอน เป็นการสร้าง Blockchain สัญชาติไทยขึ้นมาเพื่อรองรับการเติบโตตลาดดิจิทัล โดยทุกคนจะมี 2 Wallet คือ กระเป๋าเงินปกติและ Digital Wallet สร้างให้คนไทยมีความพร้อมรองรับตลาดที่เปลี่ยนไป เราต้องเป็นผู้นำตลาดดิจิทัลโลกให้ได้ ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเริ่มต้น

รวมถึงแอพพลิเคชันที่จะออกมา เรามีเป้ามองในระยะยาวไม่ใช่แค่ใช้เป็น Wallet Transactions การแลกเปลี่ยนเท่านั้น แต่ในระยะยาวจะเป็นซุปเปอร์แอพฯ เป็นแอพฯ ของภาครัฐในการระบุตัวตนดิจิทัลไอดี ดิจิทัลอีกัฟเวอร์เมนต์ เป็น Vision ที่มองไปในระยะยาว ฉะนั้นโครงสร้างพื้นฐานที่เป็น Blockchain เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่เราจะต้องทำให้ได้

นายจุลพันธ์ ยืนยันเป็น Blockchain แน่นอน ไม่ใช่ว่าเราจะใช้ “เป๋าตัง” มาทำ ก็ยังงงว่า “เป๋าตัง” มาจากไหน ส่วนกระบวนการก็ต้องไปดูในรายละเอียด แต่เทคโนโลยีเบื้องหลังต้องเป็น Blockchain ซึ่งมีระบบที่มั่นคงที่สุด มี Traceability และมีความโปร่งใส ตรงนี้เป็นกลไกสำคัญที่จะต้องนำเข้ามาใช้ เพื่อให้โครงการ Digital Wallet เข้าถึงประชาชน สามารถที่จะเขียน Smart Contract ลงไปได้ว่าจะต้องใช้ในระยะเท่าไหร่ ในระยะ 4 กิโลเมตรหรือกี่กิโลเมตร ใช้ภายในกี่วัน รายละเอียดต่างๆ เหล่านี้จะถูกกำหนดโดย Smart Contract ผ่าน Blockchain สามารถทำให้โครงการชี้เป้าได้ และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนได้จริงๆ

Update

Steve Rich's Exciting New Book: A Journey into the World of Forex Trading!

Interview

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญกับนโยบาย Digital Wallet ช่วงที่ผ่านมามีการพูดคุยกับหน่วยงานรัฐหลายหน่วยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น มุมมองด้านกฎหมายข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งจากการพูดคุยทุกฝ่ายก็ได้ชี้ในประเด็นต่างๆ หาจุดร่วมที่จะเดินหน้าโครงการนี้ได้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีและเราก็มีความเชื่อมั่น “มันไม่ใช่ทันทีทันใดที่จะออกเงิน 10,000 ผ่าน Digital Wallet ได้ ไม่ใช่ทำเสร็จภายใน 3-5 วัน เรามีการพัฒนาเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังต้องใช้เวลา จะพยายามให้เสร็จภายในไตรมาสแรกปี 67”

เมื่อถามถึงแผนหาแหล่งเงินต้องใช้มาตรการกึ่งการคลังโดยยืมเงินรัฐวิสาหกิจหรือไม่ นายจุลพันธ์ ระบุว่า กลไกนี้สุดท้ายต้องรอข้อสรุป ตอนนี้หลายฝ่ายเอาข่าวลือไปเล่าโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง กลไกที่เราจะทำยึดในวินัยทางการเงินการคลัง และจะใช้กลไกงบประมาณกับตัวของมันเองในการไฟแนนซ์ ส่วนเรื่องอื่นๆ ถ้าจะเข้ามาประกอบต้องอยู่ในพื้นฐานวินัยทางการเงินการคลัง จะไม่ให้กระทบความมั่นคงสถาบันการเงินและประเทศแน่นอน

เมื่อเราเป็นภาครัฐมันมีตัวเลือกในการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ต้องรอฟังอีกที แม้แต่คณะทำงานก็ยังไม่ได้ตัดสินใจหรือฟันธงในบางประเด็น ขอยืนยันกับประชาชนไม่กระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคง ส่วนกรอบเวลาในการจ่ายเงินตั้งเป้าเชิงรุกจะต้องทำให้เสร็จเร็วที่สุด เร็วกว่านั้นได้ยิ่งดีเพราะต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน ประมาณว่าต้องใช้วงเงินประมาณ 5.6 แสนล้านบาท เบื้องต้นวางแนวทางไว้ว่าจะดำเนินการผ่านแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย

โดยวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยถึงโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า เราทำงานเต็มที่อยู่แล้ว และประสานกับหน่วยงานราชการทุกหน่วยงาน เพื่อให้สามารถออกมาได้โดยเร็ว เป็นการจ่ายเงินเพียงหนเดียว ณ วันนี้เราคิดว่าจะทำให้ได้ภายในวันที่ 1 ก.พ.67 เราจะพยายามทำให้ได้ เราไม่มีเวลาฮันนีมูน พรุ่งนี้ก็ทำงานต่อ

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/political/morning/365107
————————-
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 7 กันยายน 2566
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/morning
facebook : https://www.facebook.com/MorningNewsTV3
Twitter : https://twitter.com/MorningNewsTV3
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3

#3PlusNews #ข่าวช่อง3